วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563


เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา
        22 ธันวาคม 2562  กศน.อำเภอเสนา  จัดโครงการศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา  กลุ่มเป้าหมายเป็นคณะครูและนักศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรนำชมจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  พานั่งรถรางชมและให้ความรู้สถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์  พาชมและให้ความรู้ที่ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์  วัดราชบูรณะ  วัดพระศรีสรรเพ็ชญ์  วัดมงคลบพิตร  และเข้าชมโบราณวัตถุพร้อมฟังคำบรรยายที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา  เก็บภาพมาฝากนะคะ


วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563


เที่ยว "เวียดนามกลาง"

        “ไปเสียก่อนจะไปไม่ไหว”  ครั้งนี้ไปเที่ยวกับคณะทัวร์ที่เวียดนามกลางค่ะ  ขอเก็บสิ่งที่พบเห็นบางส่วนมาฝากนะคะ

       สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  เป็นประเทศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้  รูปแบบการปกครองระบอบสังคมนิยมโดยพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม  แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๕๘ จังหวัด และ ๕ เทศบาล  ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวญวน  ใช้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาทางการของประเทศ  ใช้ตัวอักษรโรมันในการเขียน  ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและคริศต์  อาหารในเวียดนามมีวัฒนธรรมอาหารที่มาจากจีน  การแต่งกายอ๊าวส่ายเป็นชุดประจำชาติ  หน่วยเงินตราเป็นเงินด่ง (ประมาณ 700 ด่ง เท่ากับ 1 บาท)  

        6 ธันวาคม 2562  ออกเดินทางด้วยรถปรับอากาศจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตอนค่ำค่ะ  ถึงจังหวัดมุกดาหารเกือบสว่าง  ทำภารกิจส่วนตัวและทานอาหารเช้าที่ Ploy papace 

        7 ธันวาคม 2562  เปลี่ยนขึ้นรถนำเที่ยว (ของเวียดนาม)  นำโดยไกด์ไทย (คุณป๋อมแป๋ม)  และไกด์เวียดนาม (คุณกุ๊กไก่)  ผ่านพิธีการผ่านแดนที่ด่านมุกดาหาร  ด่านลาวเมืองสะหวันเขต  ด่านเวียดนามแดนสวรรค์ลาวบาว  มีไกด์ลาว (คุณดัง)  มาสมทบอีกคนค่ะ  ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาวชาวเวียดนาม  ผ่านภูเขาและแม่น้ำสวยงามตลอดเส้นทาง  ถึงเมืองเว้แล้วค่ะ  ชมพิพิธภัณฑ์วินห์ม็อกและลอดอุโมงค์ใต้ดินที่คนทั้งหมู่บ้านเคยอาศัยอยู่เป็นเวลาหลายปีเพื่อหลบภัยจากการทิ้งระเบิดในสมัยสงครามเวียดนาม  ค่ำๆ ทานอาหารเวียดนามมื้อแรก (อาหารเวียดนามคล้ายอาหารจีน ทุกมื้อจะมีผัก กุ้ง หอย ปู ปลา ไข่เจียวบางๆ แผ่นแป้งเหมือนแผ่นแป้งแหนมเนือง ตามด้วยผลไม้ ส่วนใหญ่จะเป็นกล้วยหอมเขียว ที่เมืองดานังจะเป็นอาหารทะเล)  อิ่มแล้วไปล่องเรือมังกรในแม่น้ำหอม ฟังเพลงบรรเลงและลอยกระทง  เข้าที่พัก TAN HOTEL เมืองเว้ค่ะ 

 
 
        8 ธันวาคม 2562  ชมวัดเจดีย์เทียนมู่ มีหอคอย 8 เหลี่ยม สูง 7 ชั้น แต่ละชั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า  ชมพระราชวังโบราณเว้ ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (ประวัติเหมือนวังโบราณอยุธยาตรงที่ถูกทำลาย ต่างตรงเป็นฝรั่งเศสเผาและสหรัฐทิ้งระเบิด)  ชมและซื้อไข่มุกที่ร้าน Lucky Pearl  จากนั้นนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกขึ้นไปที่บานาฮิลล์ (ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองในหุบเขาสูง บรรยากาศดี มีสวนสวย อากาศหนาวเย็น เวลาพูดมีควันออกจากปากด้วย ผิดกับด้านล่างเลยค่ะ  (สร้างขึ้นเป็นบ้านพักและโรงแรมของชาวฝรั่งเศสสมัยอาณานิคม)  ค่ำแล้วพักที่โรงแรม LUXURY เมืองดานังค่ะ

 
 
 
         9 ธันวาคม 2562  เห็นแล้วเมืองเก่าโบราณฮอยอันเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม  เดินชมอาคารบ้านเรือนแบบเก่าโทนสีเหลือง  ศาลเจ้า  บ้านไม้เก่าเลขที่ 101  สมาคมชาวจีน  และสะพานญี่ปุ่น (มีรถเข็นขายพิชซ่าญวนข้างทางลองซื้อทานก็อร่อยดีค่ะ)  ไปล่องเรือกระด้งต่อที่แม่น้ำทูโบนชมระบบนิเวศน์และธรรมชาติ คนพายเรือโชว์การพายแบบผาดโผน และร้องเล่นเต้นกันสนุกสนาน  จากนั้นเดินทางต่อแวะชมและซิ้อที่หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน   แวะชมและซื้อสินค้าจากโรงงานผลิตภัณฑ์จากเยื่อไผ่  ปิดท้ายด้วยการช๊อปปิ้งที่ตลาดดองบา (ก็คล้ายๆ ตลาดโรงเกลือค่ะ) ของขายมากมายผู้คนก็หนาแน่น (แม่ค้าที่เวียดนามพูดไทยพอรู้เรื่อง และซื้อขายได้ด้วยเงินไทย  ยกเว้นที่บานาฮิลล์)  เข้าที่พัก CENTURY HOTEL ที่เมืองเว้ค่ะ




        10 ธันวาคม 2562  อำลาเมืองเว้  เดินทางไปด่านเวียดนามแดนสวรรค์ลาวบาว  ด่านลาวเมืองสะหวันเขต  และด่านมุกดาหาร เปลี่ยนรถกลับไทยแล้วค่ะ  เดินชมสินค้าที่ตลาดอินโดจีน กราบหลวงพ่อองค์หลวง และทานอาหารค่ำที่เมืองมุกดาหาร (เคยทำงานที่มุกดาหาร ผ่านหลายสิบปีเวลาเปลี่ยน สิ่งต่างๆเปลี่ยนไป จำสถานที่ไม่ค่อยได้เลยค่ะ)  เดินทางกลับถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใกล้สว่างของวันที่ 11 ธันวาคม 2562

        สรุป เวียดนาม” เป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศทั่วไป  การทำมาหากินไม่ต่างจากไทยเรา  มีแตกต่างบ้าง (ตามที่เห็นเป็นจริงตามไกด์บอก)  ไม่พบคนอ้วน  ไม่พบเพศที่สาม  ไม่พบรถกระบะ  และไม่พบสุนัข (อันนี้พบ กำลังย่างทั้งตัว ดูครั้งแรกคิดว่าหมูหัน)  และสังเกตเองไม่พบอีกอย่างคือเด็กและวัยรุ่นออกมาเที่ยวเตร่เร่ร่อน  นั่นบ่งบอกถึงคุณภาพของประชากรในอนาคตค่ะ