วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


เที่ยว "เขตปกครองตนเองชนชาติไทสิบสอง

ปันนา" ประเทศสา่ธารณรัฐประชาชนจีน

      เต็มที่กับหน้าที่มาทั้งปีเลยให้รางวัลตัวเองค่ะ  ด้วยการไปเที่ยวกับคณะทัวร์ที่เขตปกครองตนเองชนชาติไทสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ครั้งนี้เป็นทัวร์ทางรถที่สนุก ตื่นเต้น และได้สัมผัสประสบการณ์จริงที่แปลกใหม่ค่ะ เก็บบางเรื่องมาเล่าและเก็บบางภาพมาฝากนะคะ
       สาธารณรัฐประชาชนจีน” (中華人民共和國;)  เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเอเซียตะวันออก ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ธงชาติจีนเป็นรูปดาวสีเหลือง 5 ดวงบนพื้นสีแดง (ดาวดวงใหญ่หมายถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นผู้นำ ดาวเล็กทั้ง 4 ดวง หมายถึง ชนชั้น ที่ประกอบขึ้นเป็นสังคมจีน คือ ชนชั้นกรรมกร ชนชั้นชาวนา ชนชั้นนายทุนน้อย และชนชั้นนายทุนแห่งชาติ) แบ่งการปกครองออกเป็น 23 มณฑล 5 เขตปกครองตนเอง 4 เทศบาลนคร และ 2 เขตบริหารพิเศษ เมืองหลวงอยู่ที่ปักกิ่ง มีพื้นที่ทั้งหมดใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 3 มีประชากรมากที่สุดในโลก 56 ชนเผ่าส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ใช้ภาษาจีนกลางเป็นภาษาราชการ หน่วยเงินตราเป็นหยวน (1 หยวน ประมาณ 5 บาท ค่ะ)
        “เขตปกครองตนเองชนชาติไทสิบสองปันนา” (西双版纳)  มีเมืองเอกอยู่ที่เชียงรุ่ง ประชากรมีหลายชนเผ่า (เป็นชนเผ่าไทมากที่สุด) ตั้งอยู่ทางใต้สุดมณฑลยูนนาน เป็นเมืองที่รุ่งเรืองทันสมัยกลางที่ลุ่มหุบเขาริมแม่น้ำโขง มีความอุดมสมบูรณ์ช้างและนกยูงเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของสิบสองปันนา เวลาที่นี่เร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมงค่ะ

          ออกเดินทางจาก กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตอนค่ำของวันที่ 17 เมษายน 2556 ค่ะ ไปสว่างพอดีที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
         18 เมษายน 2556  ทานอาหารเช้าและทำภารกิจส่วนตัวที่เชียงของ I Love You จากนั้นไกด์ไทย (น้องแวม) พานั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ขึ้นรถนำเที่ยว (ของลาว) ผ่านพิธีการผ่านแดนที่เมืองห้วยทราย ด่านบ่อเต็น (ลาว) ด่านโม่ฮาน (จีน)  มีไกด์ท้องถิ่นจีนมารอรับอีกคนค่ะ (น้องแก้ว) ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลาว ชาวจีน ป่าเขา (ถนนสายนี้จะมีอุโมงค์ลอดภูเขาเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง) ไปถึงเมืองเชียงรุ่งจนค่ำ ได้ทานอาหารจีนมื้อแรกด้วยตะเกียบค่ะ (ที่เห็นอาหารทุกมื้อต้องมีผัดผักต่างๆ หมั่นโถ เป็ดหรือไก่อบ น้ำชา ในมื้อเช้าจะมีนมถั่วเหลือง นมสด “ไม่มีกาแฟ” นะคะ) เข้าที่พักโรงแรมจินเฟิ่ง

        19 เมษายน 2556  ชมสวนม่านพิง มีอนุสาวรีย์โจวอินไหล การแสดงสัตว์ (ชาวเมืองนี้สูบบุหรี่จัดและสูบในที่สาธารณะด้วย) การเรียกนกยูงลงมาจากภูเขา (เป็นร้อยๆ ตัวสวยมากค่ะ) ชมเจดีย์แปดเหลี่ยมวัดป่าเจ สวนป่าดงดิบ หมู่บ้านเผ่าอายหนี (“เผ่าอีก้อ” ร่วมเต้นรำกับชนเผ่าด้วยนะคะ) น้ำตกแก้วมังกร ศูนย์วิจัยสิบสองปันนา (มีหมอแมะตรวจฝ่ามือรักษาโรค) ชมโชว์พาราณสีวัฒนธรรมไทลื้อ  ปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งถนนคนเดินค่ะ (เป็นช่วงเทศกาลฉลองปีใหม่ “สงกรานต์” พอดี)

        20 เมษายน 2556 ชมวัดหลวงเมืองลื้อ (เป็นวัดที่ใหญ่มากสวยงามด้วย) หมู่บ้านทำมีด (คนนำขายทุกที่จะพูดไทยคล่องมากและมีเทคนิคการขายน่ารักๆ) โรงงานทำหยกจากคนพิการ (เป็นโรงงานส่งเสริมอาชีพให้คนพิการของทางการจีน) โรงงานทำผลิตภัณฑ์จากเยื่อไม้ไผ่ โรงงานผลิตไข่มุก (เพิ่งรู้ว่าไข่มุกที่มีราคาแพงคือสีทอง สีดำ และสีเทาค่ะ) ศูนย์บำบัดโรคด้วยการนวดฝ่าท้าว ชมวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ที่เมืองฮำ (ที่ข้างฝาบ้านกำนันมีภาพบุคคลสำคัญๆ จากหลายๆ ประเทศที่เคยมาเยี่ยมเยือนมากมาย จากไทยก็หลายท่าน) นมัสการพระที่วัดสุทธาวาส ถึงเมืองหล้า ช้อปปิ้งห้างสรรพสินค้า และเข้าพักที่โรงแรมจินชิ่วค่ะ (เป็นที่น่าสังเกตว่าห้องน้ำที่ที่พักจะเป็นแบบสากล แต่ห้องน้ำทั่วเมืองเป็นแบบบ้านๆ ก็เป็นอะไรให้ขำๆ ฮาๆ กันค่ะ) 

        21 เมษายน 2556 ชมตลาดเช้าเมืองหล้า จากนั้นเดินทางไปด่านโม่ฮาน (จีน) ตลอดทางบนภูเขาจะปลูกยางพารา พื้นที่ราบปลูกกล้วยหอม (กล้วยหอมเขียว) ตามหุบเหวปลูกชา ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของเมืองนี้ ผ่านด่านบ่อเต็น (ลาว) ผ่านด่านห้วยทราย (ลาว) นั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงกลับอำเภอเชียงของถึงเมืองไทยแล้วค่ะ  เปลี่ยนขึ้นรถนำเที่ยวของไทยไปทานอาหารค่ำที่ร้านแสงจันทร์ริมกว้านพะเยา  จังหวัดพะเยา  และเดินทางกลับถึง กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาใกล้สว่างวันที่ 22 เมษายน 2556 ค่ะ

        สรุป “สิบสองปันนา” เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ท่ามกลางป่าเขา มีความอุดมสมบูรณ์  ชาวไทลื้อมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีงาม และเป็นชนชาตินิยมค่ะ    


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น